หลายคนมักคิดว่า “วิตามินซี” จำเป็นแค่ตอนป่วย เช่น ตอนเป็นหวัด หรือเลือดออกตามไรฟันเท่านั้น แต่ความจริงแล้ว มนุษย์เราในสภาวะร่างกายปกติ ก็ควรกินวิตามินซีให้เพียงพอเนื่องจากวิตามินซีสังเคราะห์เองไม่ได้ ต้องได้รับจากอาหารที่เรารับประทานเข้าไปเท่านั้น ซึ่งถ้าเราขาดวิตามินซี อาจจะส่งผลเสียแก่ร่างกายต่าง ๆ ตามมา เช่น ปวดกล้ามเนื้อ ร่างกายมีอาการอ่อนแรงโดยไม่ทราบสาเหตุ เบื่ออาหาร ไม่สดชื่นกระปรี้กระเปร่า แผลหายช้ากว่าปกติ ปากแห้งแตก เลือดออกตามไรฟัน ผิวแห้งกร้านคล้ำเสีย และทำให้เป็นหวัดง่ายอีกด้วย
ส่วนประโยชน์ของวิตามินซี ก็มีมากมายหลายข้อ เช่น
1. มีส่วนช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย โดยคนที่กินวิตามินซีเป็นประจำ เมื่อเป็นหวัด อาการจะรุนแรงน้อย และหายเร็วกว่าคนที่ขาดวิตามินซี
2. มีส่วนช่วยในการดูดซึมสารอาหาร เช่น ธาตุเหล็ก ที่จำเป็นสำหรับสาวๆ ที่กำลังมีประจำเดือน คุณแม่ตั้งครรภ์ และเด็กวัยที่กำลังเจริญเติบโต
3. มีส่วนช่วยสารต้านอนุมูลอิสระได้อย่างดี ข้อนี้สาวๆ ต้องชอบแน่นอน เพราะช่วยทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ กระชับ สดใสเปล่งปลั่ง ชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย แถมช่วงนี้ฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐานด้วย การกินวิตามินซี ก็จะช่วยลดอันตรายจากมลภาวะได้ด้วยนะ
4. มีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจน ซึ่งสำคัญมากสำหรับคนที่ชอบออกกำลังกาย เพราะช่วยสร้างความยืดหยุ่น ลดการอักเสบ และเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้ออีกด้วย
ดังนั้น การกินวิตามินซีให้เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญกับทุกเพศทุกวัยเลย อย่างเมื่อก่อนตัวบุ๊คเองก็เคยมองข้าม คิดไม่ถึงว่าจะช่วยในเรื่องฟื้นฟูร่างกายจากการออกกำลังกายได้ด้วย แต่พอช่วงหลังลองกินวิตามินซีเสริมเป็นประจำ ก็รู้สึกได้เลยว่า ร่างกายฟื้นตัวเร็ว ออกกำลังกายได้นานขึ้น และเหนื่อยน้อยลง ดีงามมาก
วิตามินซีตามธรรมชาติ เราจะได้รับจากการรับประทานผักและผลไม้ต่างๆ โดยผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง ได้แก่ สับปะรด กีวี ส้ม ฝรั่ง หรือผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวต่างๆ แต่สาวๆ หลายคนที่กำลังไดเอทอยู่ กลัวว่ากินผลไม้เยอะ จะได้รับน้ำตาลมากเกินไป อยากจะบอกว่าวิตามินซีไม่ได้มีแค่ในผลไม้นะคะ ในผักก็มีด้วยค่ะ เช่น พริกหวาน มะเขือเทศ บล็อกโคลี่ ผักคะน้า ปวยเล้ง ฯลฯ แต่เนื่องจากวิตามินซีเสื่อมสลายได้ง่ายมาก โดยเฉพาะเมื่อโดนความร้อน ทำให้เวลานำมาปรุงอาหาร ควรใช้ความร้อนต่ำๆ หรือเลือกกินผักและผลไม้สด สะอาด แบบไม่ผ่านการปรุงสุกเลย ก็จะได้รับวิตามินซีที่มากขึ้นค่ะ
แม้วิตามินซีจะมีข้อดีเยอะ แต่เราก็ต้องกินให้ถูก และกินในปริมาณที่เหมาะสมค่ะ เพราะวิตามินซี มีคุณสมบัติเป็นกรด ควรเลี่ยงการกินตอนท้องว่าง เพราะอาจจะทำให้กระเพาะอาหารเกิดการระคายเคือง ซึ่งเดี๋ยวนี้เค้าก็มีสูตรวิตามินซีที่มีความเป็นกรดต่ำ ให้เลือกรับประทานบ้างแล้ว ก็พอช่วยได้ค่ะ และไม่ควรกินวิตามินซีก่อนนอน เนื่องจากมีสารที่ทำให้ร่างกายเกิดการตื่นตัว อาจจะทำให้นอนหลับยาก โดยวิตามินซีเป็นวิตามินละลายน้ำ แต่ส่วนใหญ่หลายๆ คนจะกินน้ำน้อยก่อนที่จะเข้านอน ทำให้การกินวิตามินซีหลังมื้ออาหาร น่าจะดีกว่ากินก่อนนอนค่ะ โดยหลังกินวิตามินซี ควรดื่มน้ำตามมากๆ เพื่อลดความเสี่ยงจากการสะสมในร่างกาย ซึ่งปริมาณที่แนะนำต่อวัน คือ ไม่ควรกินเกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน และควรมีช่วงพักวิตามินบ้าง ไม่กินติดต่อกันนานๆ เพราะอาจทำให้เกิดผลเสียข้างเคียงได้
คนส่วนใหญ่ในสังคมที่เร่งรีบอย่างทุกวันนี้ มักรับประทานผักและผลไม้น้อย ทั้งงานยุ่ง หาผักและผลไม้กินยาก บางคนไม่ชอบกินผักและผลไม้เลย พูดให้เห็นภาพคือ ถ้าอยากให้ร่างกายได้รับวิตามินซีสูงถึง 500 มิลลิกรัม ต้องกินส้มเขียวหวานมากถึง 3 กิโลกรัมเลยทีเดียว กว่าจะกินให้ถึงในแต่ละวันยากมาก ดังนั้น การเสริมวิตามินซีวันละ 1-2 เม็ดเป็นประจำ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สะดวกมากๆ
อย่างตอนนี้ตัวบุ๊คเอง ถึงแม้จะกินผักและผลไม้เยอะอยู่แล้ว แต่ก็กินวิตามินซีแบบเม็ดเสริมไปด้วย เนื่องจากเราออกกำลังกายเยอะ โดนแดดบ่อย ร่างกายจึงต้องการวิตามินซีมากกว่าคนปกติ อย่างตัววิตามินซีที่บุ๊คกินอยู่เป็นประจำ จะเป็นวิตามินซีชนิดออกฤทธิ์ต่อเนื่องยาวนาน ซึ่งจะค่อยๆ ปลดปล่อยวิตามินซีออกมาในทางเดินอาหาร เพื่อให้ออกฤทธิ์ต่อเนื่อง ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้ยาวนาน 6 – 8 ชั่วโมง แถมมีส่วนผสมจากธรรมชาติเพิ่มเติมอย่าง โรสฮิพ รูทิน เฮสเพอริดิน และไบโอฟลาโวนอยด์ ช่วยเพิ่มการดูดซึมวิตามินซีได้ดียิ่งขึ้นค่ะ
รู้ประโยชน์ของวิตามินซีกันไปแล้ว ลองนำไปปรับใช้กันดูนะคะ เพิ่มการกินวิตามินซีจากผักและผลไม้ในมื้ออาหารต่อวันให้มากขึ้น หรือถ้าใครสะดวกจะกินวิตามินซีเสริมเป็นเม็ด ก็ได้เช่นกันค่ะ ก็จะช่วยให้ร่างกายเราแข็งแรงขึ้น และไม่เจ็บป่วยบ่อยด้วยค่ะ #เสริมครบจบในเม็ดเดียว #เรื่องบัฟเฟอร์ไว้ใจเรา #ออกฤทธิ์ยาวนาน