จีบตอนอ้วน แถมฟรีตอนผอม พลิกชีวิตจากสาวอ้วน 100 โล กลายเป็นสาวน้อยแสนน่ารัก

วันนี้บุ๊คมีบทสัมภาษณ์ของ “น้องมะลิ” สาวตุ้ยนุ้ยที่เคยมีนํ้า หนักตัวถึง 116 กิโลกรัม

หนึ่งในสมาชิกกลุ่ม “ปีนี้เราจะ ผอมไปด้วยกัน” https://www.facebook.com/groups/997812890362820 เรามาฟังเรื่องราวและเทคนิคการลดนํ้าหนักของเธอกันเลย ดีกว่า

บุ๊คกี้ : น้องมะลิแนะนำตัวในเพื่อนๆรู้จักกันหน่อยค่ะ
มะลิ : ชื่อ มะลิตา พรมฉวี ชื่อเล่น เหมย เเต่คนชอบเรียก มะลิค่ะ อายุ 23 ปี ส่วนสูง 158 นํ้าหนักก่อนลดที่สูงสุด คือ 116 กิโลกรัม นํ้าหนักปัจจุบัน 69 ค่ะ

บุ๊คกี้ : แรงบันดาลใจในการลดนํ้าหนักของน้องมะลิคืออะไร คะ
น้องมะลิ : แรงบันดาลใจแรกเลยมาจากตอนรับน้องค่ะ ช่วง นั้นนํ้าหนักเราลดลงมา 10 กิโลกรัม จาก 116 เหลือ 106 กิโลกรัม ตอนนั้นเลยคิดว่ามันลดได้ 10 กิโลกรัมแล้ว ทำไมเราจะลดเพิ่มอีก 5 – 10 กิโลกรัมไม่ได้หละหลังจากนั้นเราก็เริ่มจริงจัง เริ่มมองถึงอนาคตว่าตอนส่องกระจกถ้าเราผอมเราจะเป็นยังไงน้า 5555+ เนื่องจากตัวเราเองมีต้นทุน ที่ดี คือเป็นคนขาวมากอยู่แล้ว เลยคิดที่จะเปลี่ยนตัวเองไปในทางดีกว่าเดิม เราเริ่มเอารูปนางแบบสวยๆใส่ชุดสไตล์ที่เราชอบมาเป็นแรงผลักดัน เริ่มจริงจังในเรื่องอาหารมากขึ้น และออกกำลังกาย คืออยากใส่ชุดที่หาได้ตามท้องตลาด ทั่วไปได้ และอีกแรงฮึดนึงที่เราจำได้มาตลอดเลยก็คือ เรา เคยขึ้นรถเมล์ที่คนแน่นมาก ซึ่งพอเราขึ้นไปหน้าตาของคนใน รถดูไม่เป็นมิตร ไม่อยากจะต้อนรับเราเลย ตอนนั้นเลยคิด ว่าเพื่อคนรอบข้างและตัวเราเอง เราต้องผอมให้ได้ค่ะ

บุ๊คกี้ : น้องมะลิมีวิธีการลดอย่างไรบ้างคะ
น้องมะลิ : ช่วงแรกที่ลดนํ้าหนักยอมรับเลยว่า พยายามมองหาทางลัดด้วยการ ทานยาลดนํ้าหนักและอาหารเสริมยี่ห้อที่ดังๆแพงๆ ซึ่งลองมาหลายตัว มากเลยค่ะ ตอนกินนํ้าหนักก็ลดลง แต่พอหยุดก็ขึ้นมาเหมือนเดิม บาง ตัวมีเอฟเฟคตามมาคือจะเป็นลม อาการเหมือนจะป่วยตลอดเวลา เลย ค้นพบว่าวิธีที่ดีที่สุดคือควบคุมอาหารและออกกําลังกายค่ะ
เริ่มแรกจากการคุมอาหารก่อนค่ะ โดยเรื่องอาหารสิ่งที่ สำคัญสุด คือ อย่าเสียดายของ อิ่มแล้วให้พอค่ะ แล้วก็ทาน แป้งให้น้อยลง โดยเราทานมื้อนึง 1-2 ทัพพี โดยเปลี่ยนจาก ข้าวสวยเป็นข้าวกล้อง แต่จะหุงแฉะๆหน่อย เพราะเรากิน ข้าวกล้องไม่ถนัดเลยใช้วิธีนี้ ช่วยให้กินได้ง่ายขึ้น แล้วก็ต้องกินผักเยอะๆ แต่ในปริมาณที่ตัวเองรับไหวนะคะ ไม่ใช่กินแต่ผักอย่างเดียว เพราะจะทำให้เบื่อและเอียนกลิ่นผักเลยซึ่งเราทำอาหารกินเองดังนั้นเราจะปรับจะเปลี่ยนยังไงก็ได้

หลังจากนั้นก็เริ่มหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ เช่น อ่านกระทู้เกี่ยวกับ การลดนํ้าหนักบ้าง ดูว่าเค้าทำอาหารกันแบบไหน แล้วก็เอามาปรับเปลี่ยนให้เข้ากับตัวเอง

โชคดีที่เราเป็นคนกินรสชาติจืดอยู่แล้ว ดังนั้นอาหารที่ทำจะง่ายๆไม่ยุ่งยาก เช่น แกงจืด สุกี้ อกไก่+ผักนึ่งค่ะ บางครั้งใช้ผงปรุงรสแบบสำเร็จ^^ แต่ใส่ไม่เยอะนะคะ ใส่แค่พอให้มีรสชาติเพราะถ้าใส่เยอะเดี๋ยวตัวจะบวม ช่วงหลังก็ทำข้าวกล่องไปกินที่มหาลัยเองเลย ทำเผื่อเพื่อนด้วยนะ สนุกดีค่ะ

ส่วนเรื่องการออกกำลังกายส่วนตัวเราเป็นคนขี้เกียจ เพราะเราอ้วน นํ้าหนักเยอะเลยเหนื่อยง่าย แต่ก็เริ่มจากออกกำลังกายแบบง่ายๆก่อนโดยหาท่าออกกำลังกายในเน็ตที่สามารถนอนไปแล้วทำไปบนเตียงได้ แหะๆ ตามคลิปประมาณนี้
[arve url=”https://www.youtube.com/watch?v=MM_tQtO3QC8″]

แล้วก็เต้น T25 อันแสนฮอตฮิตด้วยซึ่งช่วงแรกๆได้แค่ยํ่าอยู่กับที่ในห้องค่ะแต่พอหลังๆเริ่มเต้นตามจังหวะได้ทำไปทำมาก็รู้สึกสนุก และชินกับมันถ้าไม่ทำจะรู้สึกผิดผ่านไปเดือนกว่าผลที่ได้คือ เอวจาก 52 เหลือ 48 ลดมา 4 นิ้ว เปลียนไซส์กระโปรงเลยค่ะพอยิ่งเห็นการเปลี่ยนแปลงของตัวเองยิ่งสนุกยิ่งฮึดมากขึ้น โดยช่วงแรกเราออกกำลังกายในห้องคนเดียว เพราะไม่กล้าที่จะไปออกกำลังกายข้างนอก เราอ้วนมากเลยอายผู้คนแต่ตอนหลังพอเพื่อนเห็นเราลดได้ก็มาร่วมทีมด้วย เรียกว่ามีกลุ่มเพื่อนร่วมอุดมการณ์แล้วค่ะ ก็เริ่มออกไปวิ่งข้างนอกวิ่งไปเหนื่อยก็พักไหวหน่อยก็เดินเร็ว ยิ่งมีเพื่อนการออกกำลังกายยิ่งสนุกมากส่วนเวลากลับมาบ้านเราจะบังคับน้องให้มากระโดดเชือกแข่งกัน สลับกันไปแบบไม่มีหลักการ นับครั้ง 500+ หลายรอบได้ ใช้เวลาไม่ตํ่ากว่า 30 นาที เวลาอยู่ว่างๆก็ขยับแขนขยับขา แค่นี้แหล่ะค่ะการออกกำลังกายของเรา

บุ๊คกี้ : เคล็ดลับพิเศษที่ใช้ในการลดนํ้าหนักของเรา
น้องมะลิ :
-เราจะซื้อเสื้อผ้าตัวเล็กกว่าไซส์ตัวเอง 1 ไซส์ค่ะ
-ก่อนจะกินหรือซื้อคิดก่อนว่าหิวหรืออยากไม่กินมันจะตายไหมถ้ากินแล้วมันจะส่งผลยังไงต่อร่างกายเรา
-ไม่งดของหวานค่ะ เราให้ตัวเองกินได้แค่ให้พอหายอยากแต่จะเลือกมากขึ้น เช่น จากชาเขียวธรรมดา เป็นเป็นชามะนาว ไม่หวานมาก
-งดนํ้าอัดลมขนมขบเคี้ยวเพราะคิดว่าไม่กินก็ไม่ตายมันไม่จำเป็นที่สำคัญมันประหยัดเงินด้วยย 5555+
-ตอนลดนํ้าหนักอย่าใจร้อนอยากรีบผอมเพราะมันจะทำให้เราเครียดเกินไปอย่างตัวเราค่อยๆลดเรื่อยๆ วิธีนี้จะยั่งยืนกว่าลดฮวบทีเดียวไม่ทำให้เกิดอาการโยโย่เอฟเฟคด้วย

บุ๊คกี้ : ลดนํ้าหนักได้เยอะขนาดนี้ชีวิตเราเปลี่ยนแปลงไปยังไงบ้างคะ
น้องมะลิ : เปลี่ยนไปมากเลยค่ะ เอาแบบชัดๆเลยคือความมั่นใจมันมีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้น เสื้อผ้าหาใส่ง่ายขึ้น ใส่ไซส์ที่หาซื้อได้ทั่วไป จากเมื่อก่อนต้องสั่งตัดหมด ชุดพละ นักเรียน ชุดยุวะ ชุดนศ. คือมันทําให้ที่บ้านต้องมาวุ่นวายกับเรา เวลาเดินทางเวลาขึ้นรถเมล์มันรู้สึกโอเคขึ้นมากเลยค่ะ คนรอบข้างก็ชื่นชมเราก็ ภูมิใจค่ะ ^°^
ส่วนเรื่องสุขภาพที่เห็นได้ชัดเลย คือ หายนอนกรน และอาการรองชํ้าก็หายรวม ทั้งอาการปวดหลัง ปวดขา เหนื่อยง่าย หอบ มันโอเคขึ้นหมดค่ะ ส่วนเรื่องอารมณ์ก็ดีขึ้นมากค่ะ เริ่มมีแฟนแต่ก็อกหักเหมือนเดิม อยู่เป็นโสดก็อารมณ์ดี เหมือนเดิมค่ะโดยรวมคือมันดีทุกอย่างเลยค่ะ สวยขึ้นมั่นใจขึ้นทําอะไรสะดวกมากขึ้น สุขภาพจิตดี สุขภาพร่างกายก็ดีขึ้น

บุ๊คกี้ : อยากฝากอะไรให้ถึงคนที่กำลังลดนํ้าหนักอยู่
น้องมะลิ :

คุณมองหนูสิคะ มีหลายคนบอกว่าเราอ้วนมากแล้วลดไม่ลงหรอก

หรือ

อ้วนแต่เด็กมันลดยากบ้างหละ

แต่เห็นมั้ยคะว่าเราทำได้ทำได้ดีด้วย ขนาดคนที่อ้วนแต่เด็ก ไม่เคยเจอคำว่าหุ่นพอดีเลยอย่างเรายังทำได้ คุณเองก็ต้องทำได้สิคะ โดยเวลาลดนํ้าหนักอย่าตั้งเป้าหมายสูงเกินไป แต่ให้คิดว่าลดได้ก็ดี ลดไม่ได้ก็ถือว่าเราได้กินอาหารที่มี ประโยชน์ได้ออกกำลังกาย ลองถามตัวเองว่าทั้งหมดนี้เรา ทำเพื่อใคร ? คำตอบก็คือเพื่อตัวเองทั้งนั้นนี่นา ดังนั้นถ้าคุณรักตัวเองคุณก็จะมีแรงฮึดที่จะสู้อย่างแน่นอนค่ะ