ในปัจจุบันการลดน้ำหนักและเผาผลาญไขมันนั้นไม่จำเป็นต้องไปออกกำลังกายนอกสถานที่ เพราะเราสามารถออกกำลังกายด้วยท่าเบสิกพื้นฐานที่บ้านเองได้
โดยการออกกำลังกายวันนี้จะเป็นรูปแบบของ
Circuit Training (การออกกำลังกายวนเป็นสถานี)
ซึ่งเป็นการออกกำลังกายที่ผสมผสานการออกำลังกายแบบคาดิโอผสมกับเวทเทรนนิ่งโดยการออกกำลังกายในรูปแบบนี้สามารถทำให้กล้ามเนื้อเฟิร์มกระชับ ไปพร้อมๆกับพัฒนาให้หัวใจแข็งแรงมากขึ้น และ ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถเผาผลาญไขมันส่วนเกินได้ดีในระยะเวลาอันสั้นอีกด้วย
โดยวันนี้บุ๊คจะเลือกท่าออกกำลังกายมา 8 ท่า แล้วเล่นติดต่อกัน ท่าละ 1 นาที โดยไม่ต้องพักระหว่างท่าเลย เมื่อทำจบ 8 ท่า แล้วค่อยพัก 1 นาที เอาหละมาเริ่มกันเลย
ท่าที่ 1 JUMPING JACK
เป็นท่ากระโดดตบเหมือนตอนเราเรียนประถมเลย เริ่มต้นด้วยขืนเท้าชิดแขนแนบลำตัว แล้วกระโดดตบโดยมือกระทบกันเหนือศีรษะ เท้าแยกออกจากกัน 1 ก้าว กลับสู่ท่าเริ่มทำวนไป ท่านี้จะช่วยบริหารกล้ามเนื้อขา
ท่าที่ 2 Lunge jump
เริ่มต้นท่านี้ด้วยการยืนตรง จากนั้นกระโดดก้าวขาข้างหนึ่งไปข้างหน้า แล้วย่อตัวลง พยายามให้หลังตรง เข่าของขาหน้าไม่เลยปลายเท้า ส่วนขาหลังย่อลงจนหัวเข่าเกือบติดพื้น ทำซ้ำสลับข้างกันไปเรื่อยๆ ได้กล้ามเนื้อส่วนก้นและขา
ท่าที่ 3 Push up
ท่าวิดพื้นแบบใช้เข่ายันพื้น โดยจะเป็นท่าฝึกการวิดพื้นสำหรับผู้หญิง ซึ่งทำได้ง่ายกว่า ขณะทำให้และเกร็งหน้าท้อง ท่านี้จะช่วยบริหารหน้าอกได้ หัวไหล่ และแขน
ท่าที่ 4 Jump Squat
เริ่มด้วยยืนตรง แยกเท้าออกประมาณหัวไหล่ ดันสะโพกไปข้างหลังก่อนแล้วค่อยงอเข่า ย่อลงให้ต้นขาขนานกับพื้น เข่าชี้ไปทางเดียวกับปลายเท้า แล้วกระโดดขึ้น นับเป็น 1 ครั้ง ทำวนไปเรื่อยๆ โดยท่านี้จะช่วยบริหารส่วนขาหน้า ต้นขาด้านหลังและบริเวณสะโพก
ท่าที่ 5 Crunch
เริ่มจากนอนหงาย ชันเข่าขึ้นมา เอามือแตะใต้ศีรษะ ไม่กดหัว จากนั้นให้ดันลำตัวขึ้นมาเล็กน้อยประมาณ 45 องศา แล้วกลับสู่ท่าเริ่มต้น ท่านี้ช่วยบริหารหน้าท้อง
ท่าที่ 6 BURPEES
เริ่มจากท่ายืนแยกเท้าออกประมาณหนึ่งช่วงไหล่ จากนั้นย่อตัวลงไปให้อยู่ในตำแหน่งของท่าสควอท วางมือที่พื้นด้านหน้าเตะเท้าทั้งสองข้างออกไปทางด้านหลังให้อยู่ในท่าวิดพื้นเตะเท้าทั้งสองข้างเข้ามากลับมาอยู่ในท่าเดิมจากนั้นลุกขึ้นแล้วกระโดด ท่านี้จะช่วยบริหาร กล้ามเนื้อหน้าอก กล้ามเนื้อหน้าท้อง กล้ามเนื้อต้นแขน ต้นขา กล้ามเนื้อสะโพก ไปจนถึงน่อง
ท่าที่ 7 Bridge
เริ่มจากนอนหงาย ชันเข่าขึ้นมาทั้ง 2 ข้าง จากนั้นให้ยกสะโพกขึ้น ถ้าทำถูกลักษณะของตัวเราจะเป็นรูปสามเหลี่ยม ท่านี้ช่วยบริหารในส่วนของก้นและขาด้านหลัง
ท่าที่ 8 Tricep Dip
ใช้มือเท้ากับพื้นความกว้างประมาณหัวไหล่ หันปลายนิ้วมือเข้าหาลำตัว กางเท้าให้อยู่ในระดับเดียวกับหัวไหล่ ยันตัวขึ้น เกร็งแขน หลังตรง แล้วย่อตัวลง ให้ศอกงอไปทางด้านหลัง ท่านี้จะช่วยบริหารกล้ามเนื้อหลังแขนให้กระชับขึ้น
หลังจากทำครบรอบ 1 รอบแล้ว ถ้าต้องการเบิร์นได้เยอะมากขึ้น บุ๊คแนะนำให้ทำซ้ำทั้งหมด 3 รอบ จะทำให้ใช้พลังงานได้ประมาณ 100-200 kcal เลยทีเดียว (การเผาผลาญของแต่ละบุคคลแต่ต่างกันตามอายุ อัตราการเต้นของหัวใจ และความเข้มข้นตอนออกกำลังกาย)
โดยในวันนี้บุ๊คมี Samsung Gear Fit2 เป็นตัวช่วยในการวัดชีพจรและค่าพลังงานที่ใช้ในช่วงการออกกำลังกาย โดยอัตราการเต้นของหัวใจของบุ๊คขณะออกกำลังกายอยู่ที่ 126 bpm ซึ่งถ้าเทียบกับตอนอยู่นิ่งๆ อัตราการเต้นของหัวใจจะอยู่ที่ประมาณ 60 bpm โดยคนที่ออก
กำลังกายแบบคาดิโอจะทำให้หัวใจแข็งแรง ดังนั้นอัตราการเต้นของหัวใจก็จะต่ำกว่าคนที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายแบบคาดิโอ และค่าการอัตราการเผาผลาญของบุ๊คที่วัดได้จากนาฬิกา Samsung Gear Fit2 นั่นก็คือ 110 kcal มี โดยใช้เวลาออกกำลังกายทั้งหมดไป 30 นาที
เห็นได้ว่าการออกกำลังกายด้วยท่าง่ายๆ ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ก็สามารถลดไขมันและทำให้หุ่นเฟิร์มกระชับได้เช่นกัน ดังนั้นอยากจะหุ่นดีก็ไม่จำเป็นต้องเสียเงินไปเข้าฟิตเนสหรือซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกายแพงๆเลย
สำหรับใครที่แอบมองๆ activity tracking อยู่ บุ๊คอยากให้ลองเก็บ Gear Fit2 เป็นอีก 1 ทางเลือกนะคะ สามารถดูรายละเอียดได้ที่ http://bit.ly/2dmuECr